สืบเนื่องจากรัฐอิสราเอลตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสวิด-๑๙ เพิ่มขึ้นในประเทศเกินหนึ่งร้อยคนต่อวัน ติดต่อกันสองวัน หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๓ ของผู้ที่เข้ารับการตรวจคัดกรองทั้งหมด เมื่อวันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ ทางการอิสราเอลได้ประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์เดลต้า เพื่อให้มีการตรวจพบเชื้อที่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ดังนี้
๑. ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน
๒. ผู้ที่เดินทางเข้ามายังรัฐอิสราเอลจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-๑๙ ด้วยวิธี PCR ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน
๓. ผู้ปกครองของเด็กที่มีอายุเกิน ๑๒ ปี บริบูรณ์ หากฝ่าฝืนมาตรการกักตัวจะได้รับโทษสูงสุด
๔. ให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ ๑๒ – ๑๖ ปี เข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-๑๙
นอกจากนี้ นายนาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้แถลงข่าว ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ประกาศเตือนชาวอิสราเอลให้งดการเดินทางออกนอกประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น รวมทั้งอาจมีการกำหนดให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด
ในวันเดียวกัน Prof. Hezi Levi อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ได้ลงนามในคำสั่งเรื่อง เงื่อนไขการกักตัวบุคคลที่เดินทางเข้ามายังรัฐอิสราเอลสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-๑๙ ครบ ๒ เข็มแล้วต้องเข้ารับการกักตัว ดังนี้
๑. เมื่อมีการสัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์เดลต้า แม้จะได้รับวัคซีนโควิด-๑๙ ครบ ๒ เข็มแล้วก็ตาม
๒. เมื่อมีการสัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ สายพันธุ์อื่นๆ แต่มีความเสี่ยงทางการแพทย์ หรือไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19
หรือได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่ใช้ในรัฐอิสราเอล
๓. เมื่อผู้โดยสารที่เดินทางมายังรัฐอิสราเอลด้วยเที่ยวบินเดียวมีผลการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ เป็นบวก
โดยคำสั่งการกักตัวดังกล่าว จะมีการประกาศใช้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิสราเอลแล้ว