ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับแจ้งเบาะแสว่าคนงานไทยในโมชาฟ Ahituv มีพฤติกรรมที่อาจสร้างปัญหาการทำงานแก่นายจ้างได้ ดังนั้น เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานจึงเดินทางไปยังโมชาฟดังกล่าว และได้มีโอกาสพบปะกับนายจ้าง ๔ ราย ทำให้ทราบว่า คนงานบางคนดำเนินธุรกิจปล่อยเงินกู้ ให้บรรดาคนงานไทยในโมชาฟ โดยคิดดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ ๒๐ ต่อเดือน เป็นเหตุให้คนงานที่เป็นลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้สินได้และต้องหลบหนีออกจากโมชาฟไปในที่สุด ถึงปัจจุบันมีคนงานที่หลบหนีหนี้แล้วจำนวน ๖ คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนายจ้าง กล่าวคือ นายจ้างจะไม่สามารถจ้างคนงานรายใหม่ได้ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยอิสราเอลจะไมให้คนงานใหม่ย้ายเข้ามาเพื่อทดแทนกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ทราบว่าคนงานที่เป็นผู้ปล่อยเงินกู้ก็ไม่ต้องการย้ายไปทำงานที่อื่น เพราะต้องคอยติดตามเก็บดอกเบี้ย รวมทั้งไม่สนใจที่จะทำงานตามสัญญาจ้างงานอีกด้วย และหากนายจ้างตักเตือนก็เกรงว่าคนงานจะหลบหนีเป็นเหตุให้นายจ้างสูญเสียการใช้สิทธิจ้างงานคนต่างชาติตามโควตาที่ได้รับ ต่อปัญหาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานจะได้ประสานกระทรวงมหาดไทยของอิสราเอลเไทยเพื่อหาทางออกต่อไป
อนึ่ง ฝ่ายแรงงานได้หยิบยกประเด็นเรื่องค่าจ้างที่ได้รับแจ้งว่า นายจ้างจ่ายต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ พบว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายบางประการที่ต้องทำความเข้าใจกับนายจ้าง ทั้งนี้ จะได้ประสานให้มีการจัดประชุมระหว่างฝ่ายแรงงานกับคณะกรรมการบริหารโมชาฟเพื่อสร้างความเข้าใจและนำไปสู่การปฏิบัติตามกฎหมายร่วมกัน